Last updated: 21 ก.ค. 2564 | 6644 จำนวนผู้เข้าชม |
จิต เป็นธรรมชาติที่เกิด-ดับ รับรู้อารมณ์สืบเนื่องไปทุกขณะ .. ทางช่องทางทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียกว่า วิญญาณ
จิตดั้งเดิม.. ผ่องใส แต่เศร้าหมอง เมื่อออกไปรับรู้อารมณ์ต่างๆ และถูกกิเลสที่จรมา คือ ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า " ธรรมทั้งปวง รวมลงที่จิต"
การที่เราเริ่มต้นดูจิต คุมใจไว้ ชื่อว่า คุมอารมณ์ทั้งหมด ทั้งความรู้สึกพอใจ -ไม่พอใจ ความคิดดี-ไม่ดี ฯลฯ เมื่อเรากลับมารู้สึกที่จิตเนืองๆ เห็นการเกิด-ดับภายใน จึงไม่หวั่นไหวไปในอารมณ์ทั้งปวง...
เมื่อบุคคลมี ราคะ มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ พิจารณาซากศพ ช่วย
เมื่อบุคคลมี ความโกรธ มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ แผ่เมตตา
เมื่อบุคคลมี ความคิด มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ พิจารณาความไม่เที่ยง
เมื่อบุคคลมี ความสุข มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ เห็นทุกข์
เมื่อมี ความยึดถือตัวตนอยู่ พระพุทธองค์ทรงสอนให้ เห็นอนัตตา คือ ทุกสิ่งไม่ได้มีตัวตน เป็นเพียงเหตุ-ปัจจัย เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน
เมื่อพิจารณาดีแล้ว จิตย่อมตั้งมั่น มีปัญญาเห็นตามความเป็นจริง เห็นทุกข์ที่เกิดขึ้น และทุกข์ที่ดับไป ชื่อว่า .. ดำเนินอยู่บนทางสายกลาง เรารักษาจิต รู้สึกไปเนืองๆ ไม่ยินดี ไม่เพลิดเพลินหลงใหล คลายความติดใจในสิ่งทั้งหลาย .. จิตจึงเป็นอิสระจากความทุกข์ทั้งปวง นี่เป็นเป้าหมายว่า ทำไมเราต้องดูจิต
31 ม.ค. 2563
8 ธ.ค. 2565
8 ธ.ค. 2565
25 ม.ค. 2561